ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงต้องใช้ 4Es

14 Dec 2020

ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงต้องใช้ 4Es

แน่นอนว่าหลายๆ คนคงรู้จัก 4Ps เป็นอย่างดี เพราะเป็นพื้นฐานของการทำการตลาด แต่ว่าในปัจจุบันนั้น 4Ps คงไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอีกต่อไป ในวันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ 4Es เครื่องมือทางการตลาดยุคใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับลูกค้าของคุณมากยิ่งขึ้น

หลักการตลาดยุคใหม่ 4Es โดยหากจะอธิบายสั้นๆ 4Es จะมองที่เรื่องของการสร้างประสบการณ์ การบริหารความสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าเป็นหลัก จะประกอบไปด้วย Experience, Exchange, Everyplace, Evangelism เรามาทำความรู้จักกับ “E” แต่ละตัวกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

Experience “ประสบการณ์

ทุกวันนี้สินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอีกแล้ว ลองนึกถึงลูกค้าคนหนึ่งที่ต้องการไปร้านกาแฟ แต่เขาอาจไม่ได้ต้องการแค่กาแฟรสชาติดี แต่อาจต้องการบรรยากาศหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากกว่าแค่การมาดื่มกาแฟ

ดังนั้น หากคุณสามารถมอบประสบการณ์ที่ “เกินความคาดหวัง” หรือทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึก WOW ได้ บอกได้เลยว่านอกจากลูกค้าจะประทับใจแล้ว ยังมีโอกาสที่ลูกค้าคนนั้นจะบอกต่อเรื่องราวที่ได้เจอมาอีกด้วย

Exchange “คุณค่า”

“ตั้งราคาถูกๆคนจะได้ซื้อ” , “ต้องตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่ง” แน่นอนว่าการตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งนั้นย่อมจูงใจได้ดี และเหมาะกับสินค้าที่ต้องการสร้างการรับรู้ แต่สำหรับการทำธุรกิจในระยะยาวคงไม่ใช่ผลดีแน่นอน

ดังนั้นคุณควรสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ทำให้สินค้าหรือบริการมี “คุณค่า” จนลูกค้ายอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้มันมา มันคงดีไม่น้อยเลยทีเดียว

Everyplace “ทุกที่”

“ทุกที่” ที่เรากำลังจะพูดถึงไม่ได้หมายถึงการสื่อสารไปยังทุกสื่อโซเชียลมีเดียหรือการเปิดร้านทุกๆที่ แต่หมายถึง การนำตนเองไปอยู่ในช่องทางที่ลูกค้าจะพบเห็นได้ง่ายและสะดวกสบายที่สุด ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย ช่องทางการชำระเงิน หรือ ช่องทาง E-commerce ต่างๆ จำไว้ว่ายิ่งใกล้ชิดกับลูกค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบ !

เพิ่มเติม ถ้าอยากรู้ว่าลูกค้าของคุณอยู่ในช่องทางไหนบ้าง ขอแนะนำให้วิเคราะห์ A day in life และ Customer Journey เพราะจะช่วยให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าว่าอยู่ในช่องทางไหนบ้าง อีกทั้งยังช่วยให้สื่อสารไปหาลูกค้าได้ถูกที่ ถูกเวลา และไม่เป็นการรบกวนลูกค้าอีกด้วย

Evangelism “ความภักดี”

ในยุคนี้การสร้างการรับรู้แบบเดิมๆหรือการออกโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม แบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคอีกแล้ว

แต่ต้องทำการสื่อสารวิธีการใหม่ๆด้วย เช่น การให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น นำเสนอถึงวิธีการใช้งานสินค้าแบบใหม่ๆ หรือ นำเสนอผลลัพธ์จากการใช้งาน เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าไปมีส่วนร่วมกันสินค้าและรู้สึกประทับใจต่อตัวสินค้า จนอยากบอกต่อสิ่งดีๆ หรือก็คือเป็นการทำ Word of Mouth นั่นเอง