Schedule a call with us HERE
Logo
12 Dec 2024

Dynamic Pricing คืออะไร แล้วส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจในปี 2568

Dynamic Pricing ถือเป็นคำศัพท์ยอดนิยมคำหนึ่งสำหรับปี 2024 คำหนึ่ง และคาดว่าจะเป็นเทรนด์การทำการตลาดในอนาคต

เรามาทำความรู้จัก Dynamic Pricing กันค่ะ

Dynamic Pricing หรือ การกำหนดราคาแบบไดนามิก คือกลยุทธ์การตั้งราคาที่ปรับเปลี่ยนราคาแบบเรียลไทม์หรือเป็นระยะๆ ตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการของตลาด สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค การแข่งขัน หรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ โดยมักพบในอุตสาหกรรม เช่น อีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว โรงแรม ความบันเทิง และบริการเรียกรถ หรือ อย่างกรณีร้านอาหารร้านดังที่ออกโปรราคาสูงช่วง countdown ปีใหม่ดูวิว และพลุสวย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาที่แพงกว่าปกติของร้าน เพราะว่ารู้ว่ามีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการในจำนวนมาก ต่อให้ตั้งราคาสูงลิบลิ่วก็ยังคงมีผู้พร้อมจะจ่าย

การทำการตลาดด้วย Dynamic Pricing ต้องรู้อะไรบ้าง

แม้ว่าเรามักเห็นการทำการตลาด Dynamic Pricing กับธุรกิจขนาดใหญ่แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถทำการตลาดแบบ Dynamic Pricing ได้เช่นกัน

หัวใจสำคัญของการทำ Dynamic Pricing คือ การที่ธุรกิจต้องมีข้อมูลและรู้ถึง insights ของลูกค้าของตัวให้มากพอเสียก่อนซึ่งการได้มาซึ่งข้อมูล insights ของลูกค้านั้นร้านต้องทำการศึกษา และเก็บรวบรวมทั้งเพศ ช่วงวัย จำนวนครั้งที่มา การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้ง สาขาที่นิยมไป แล้วนำคนเหล่านี้มาจัดกลุ่มเพื่อให้ทราบกลุ่มลูกค้าหลักของเรา เป็นต้น

ไอเดียสำหรับการทำการตลาดด้วย Dynamic Pricing

  • ศึกษากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: ร้านอาจศึกษากลุ่มเป้าหมายก่อนว่าอยากทำกับกลุ่มเป้าหมายแบบใด เช่น หากวางแผนไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เรายังไม่สามารถเจาะตลาดได้ หรือลูกค้าใหม่อาจตั้งราคาให้ต่ำกว่า โดยอาจใช้คูปองต้อนรับ หรือส่วนลดสำหรับสมาชิกใหม่ในการเปิดประสบการณ์เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลอง
  • เลือกช่วงเวลา: การเลือกช่วงเวลาปรับราคาขึ้น-ลงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง ร้านอาจเลือกช่วงเวลาที่มีผู้เข้าใช้บริการน้อยและตั้งราคาให้ถูกว่าเวลาปกติ เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มักตั้งราคาต่ำสำหรับเซตอาหารกลางวัน
  • จัดสินค้าเป็นชุดเซตให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มขึ้น: การจัดสินค้าแบบโปร bundle ที่ยิ่งซื้อมูลค่ามากจะได้ส่วนลดมากกว่าการเลือกซื้อสินค้าเพียงชิ้นเดียว หรือจะออกเป็นชุดคูปองของขวัญที่ทางร้านสามารถกำหนดได้เลยว่าจะได้รับอะไรบ้างโดยการคละสินค้าที่นิยมกับสินค้าใหม่เข้าไว้รวมกัน
  • การใช้เครื่องมือ CRM เช่น Loga: Loga ก็จะมีส่วนช่วยให้การตั้งราคาแบบ dynamic ทำได้ง่ายขึ้น เพราะได้มีการเก็บ และรวบข้อมูลลูกค้า รวมถึงประวัติการออกแคมเปญต่าง ๆ ไว้อยู่แล้ว ทำให้สะดวกต่อการทำการตลาดให้ตรงจุด

เทรนด์การตลาดแบบ dynamic pricing จะเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองในอนาคตธุรกิจ หากธุรกิจไหนมีนักวิเคราะห์การตลาดก็ถือว่าโชคดีไปที่ไม่ต้องมาวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้เอง แต่หากไม่มีอาจต้องลำบากในการนำเข้าข้อมูลจากหลากหลายระบบมารวบรวมและวิเคราะห์

สำหรับลูกค้า Loga แล้วเรามีบริการเสริมที่ชื่อว่า Loga BI Analytics ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าใจฐานลูกค้าของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และเป็นเครื่องมือที่ช่วยชี้วัดการทำแคมเปญการตลาด ๆ ในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

ข้อดีของการใช้งาน Loga BI เพื่อต่อยอดการตลาดแบบ Dynamic Pricing

  • ช่วยให้การตัดสินใจที่ดีขึ้น: Loga BI Analytics ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทำให้การตัดสินใจมีพื้นฐานจากข้อมูลที่แท้จริง
  • การตรวจสอบประสิทธิภาพของกิจกรรมการตลาด: Loga BI Analytics ช่วยในการติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและกระบวนการต่าง ๆ ทำให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและตรงจุด
  • การวิเคราะห์เชิงลึก: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ค้นหาความสัมพันธ์และแนวโน้มที่สำคัญ ซึ่งอาจไม่สามารถเห็นได้จากการดูข้อมูลดิบเพียงอย่างเดียว
  • การอัปเดตข้อมูลเรียลไทม์: สามารถแสดงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ทำให้การตัดสินใจและการดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปอย่างทันเวลาและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การคาดการณ์และวางแผน: ช่วยในการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้กับการทำแคมเปญธุรกิจให้ตรงจุดกับกลุ่มลูกค้าได้

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจเล็กหรือใหญ่ หากต้องการฐานข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์เพื่อต่อยอดการตลาด ควรใช้ CRM (Customer Relationship Management) และ Loga BI Analytics (Loga Business Intelligence) เข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโต และถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม Loga BI Analytics

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @loga

Tags: , , , ,
Post by pisini

0 Comments