หมูเด้ง เซเลปคน(ตัว)ใหม่ของประเทศไทยได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว แม้น้องหมูเด้งจะมาในช่วงปลายปี (ก็แน่หล่ะสิ่ เพราะน้องพึ่งเกิด) แต่มีกระแรงไปถึงระดับโลกเลยทีเดียว
ถ้าถามว่าอะไรติดเทรนด์ฮิตในไทย และเฟมัสไปไกลถึงระดับโลกในตอนนี้ ทุกคนน่าจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องหมูเด้ง ลูกฮิปโปโปเตมัส ตัวใหม่แห่งสวนสัตว์เขาเขียว
เรามาดูกันค่ะว่า ทำไมหมูเด้งถึงฮอตฮิตขนาดนี้
โชคช่วย หรือ ตั้งใจ ?
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโชคชะตาก็มีส่วนให้หมูเด้งติดเทรนด์ในช่วงระยะเวลาสั้น แต่เรื่องของโชคไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้น้องหมูเด้งดังไกลระดับโลก เพราะคุณเบนซ์พี่เลี้ยง (คนดูแล) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่าง ๆ ว่า มีการปั้นช่องทางโซเชียลมีเดียของเหล่าน้องสัตว์ที่พี่เลี้ยงเป็นคนดูแลที่สวนสัตว์เขาเขียวอยู่แล้ว จะเห็นได้จากชื่อเพจต่าง ๆ ว่า ขาหมูแอนเดอะแก๊ง ซึ่งขาหมูก็คือชื่อฮิปโปตัวแรกที่คุณเบนซ์เป็นคนดูแลนั่นเอง ซึ่งคุณเบนซ์ก็ได้พยายามทำคอนเทนต์อัปเดตชีวิต ภาพความน่ารักของสัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์ผ่านทางช่องทางสื่อต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลาพอสมควรกว่าจะเป็นหมูเด้งในทุกวันนี้ โชคช่วยก็ส่วนหนึ่งแต่การลงมือทำที่อาศัยความสม่ำเสมอน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้โชคชะตาในครั้งนี้ทำงานดีเป็นพิเศษ
จุดเริ่มต้นความดังจนเกิดปรากฏการณ์ระดับโลก
จุดเริ่มต้นของความดังจนเกิดปรากฏการณ์ หมูเด้งฟีเวอร์ เริ่มต้นมาจากกระแสภายในประเทศที่ใช้เทคนิคการสร้างการมีส่วนร่วม (engagement) และการประชาสัมพันธ์ (advertisement) เป็นหลักในการจุดกระแส โดยเริ่มจากที่ทางสวนสัตว์ประกาศว่าจะมีลูกสัตว์เกิดใหม่แล้วให้คนภายนอกได้มีส่วนร่วมในการตั้งชื่อลูกฮิปโปแคระตัวนี้ โดยชื่อหมูเด้ง ได้รับผลโหวตผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 20,000 โหวตเลยทีเดียว สิ่งนี้ก็เป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้สึกในการมีส่วนร่วมและความผูกพันของคนที่โหวตกับเจ้าหมูเด้งนี้ได้ในทางการตลาดสิ่งนี้เทียบได้กับการทำ Brand Loyalty ที่เรียกได้ว่าทางผู้ดูแลทำการตลาดแบบนี้ได้อยู่หมัดเลยทีเดียว
กระแสหมูเด้งถูกกระพือเป็นวงกว้างเริ่มต้นจากเป็นที่พูดถึงในหมู่คนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นมาถ่ายรูปความน่ารักของน้องหมูเด้ง จนดังไกลไปถึงสำนักข่าวญี่ปุ่น เมื่อมีกระแสแบบนี้แล้วทางผู้ดูแลและชาวโซเชียลมีผลอย่างมากเพราะช่วยทำให้น้องหมูเด้งเป็นที่พูดถึงบน X อย่างแพร่หลาย จนสื่อต่างชาติเริ่มเล่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็น The Guardian, BBC, CNN หรือ TIME Magazine ที่ทุกคนทราบกันดีว่าดีมากว่าชอบลงเรื่องสำคัญแห่งปีได้พาดหัวข่าว ถึงน้องหมูเด้งว่า “She’s an Icon, She’s a Legend, and She Is the Moment. Meet Viral Baby Hippo Moo Deng” เรียกได้ว่าหมูเด้งเปรียบเสมือนลิซ่าแห่งวงการสวนสัตว์เลยทีเดียว เพราะทุกสายตาล้วนจับตามอง
และจุดพีกจริง ๆ คือ เมื่อชาวต่างชาติโดยเฉพาะทางยุโรปนำหมูเด้งไปทำเป็น “มีม” อยู่ในกีฬา ภาพยนตร์ และอีกหลายวงการ ก็ยังมีการพูดถึงหมูเด้งใน official account ของตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น soft power ใหม่ของประเทศไทยเลยทีเดียว โดยผศ.ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม อาจารย์ภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความเห็นว่า ด้วยคาแรกเตอร์ที่น่ารักปนเกรี้ยวกราดของหมูเด้งที่ทางผู้ดูแลถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี กอปรกับวัฒนธรรมการใช้มีมเป็นเครื่องส่งต่อความน่ารักนี้ ทำให้ผู้ชมออนไลน์เกิดความรู้สึกร่วมที่ว่าแม้เราจะไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เราดูแลก็ช่วยส่งต่อคอนเทนต์นี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเราเรียกว่า “User Generate Content” หรือก็คือการที่คนสามารถนำเอาหมูเด้งไปผูกกับหัวข้อที่ตนเองสนใจ และเล่าเรื่องเกี่ยวกับหมูเด้งในหลากหลายบริบทมากขึ้น เช่น บิวตี้บล็อกเกอร์แต่งหน้าโดยได้แรงบันดาลใจจากหมูเด้ง เป็นต้น
เทียบการสร้างกระแสธุรกิจกับหมูเด้ง
หากมองในมุมการตลาดแล้วแบรนด์ของเราก็สามารถนำทริกเดียวกันกับผู้ดูแลหมูเด้งมาสร้างแบรนด์ให้มีคนรักได้ โดยเริ่มจากการทำแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ จุดขายของตัวเอง เน้นการประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของแบรนด์เรากับลูกค้าให้มาก ซึ่งการมีส่วนร่วมนี้อาจเกิดได้จากการให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่าง เช่นการสะสมแต้ม การมีเกมให้เล่นเพื่อแลกของรางวัล หรือการส่งคูปองไปกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้งาน สิ่งเหล่านี้ล้วนไปกระตุ้นประสาทการรับรู้ของลูกค้า ทำให้เกิดความรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ จนพัฒนากลายเป็น Brand loyalty ได้
การที่มี Brand loyalty ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับการสร้างฐานลูกค้าประจำให้มาก หากไม่รู้เริ่มต้นอย่างไร ธุรกิจสามารถมองหาเครื่องมือในการบริหารจัดการลูกค้า (CRM) อย่าง Loga ที่มีระบบสมาชิกครบวงจร ครอบคลุมการนำไปใช้งานทุกธุรกิจมาช่วยทุ่นแรงในการรักษาฐานลูกค้าประจำของคุณได้
ในอนาคตข้างหน้าไม่แน่ใจว่ากระแสหมูเด้งจะไปในทิศทางใดแต่การมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น จะทำให้เป็นเครื่องยืนยันได้เลยว่าสวนสัตว์เขาเขียวจะสามารถต่อยอด และไปขยายผลกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ในสวนสัตว์และสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคตได้แน่นอน
0 Comments