การตลาดแบบซูชิสายพานเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยจุดเด่นพิเศษของร้านที่ช่วยสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สนุกสนาน และสะดวกสบายให้กับลูกค้า
เรียกได้ว่ากระแสซูชิสายพานในไทยกำลังบูมขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประสบการณ์ในการกินที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกสนานเพราะมีการ interactive กับการสั่งอาหารโดยได้ใช้สัมผัส ทั้งรูป รสกลิ่น เสียงสัมผัสเข้ามามีส่วนช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้ของลูกค้า
Loga จะพามาวิเคราะห์โมเดลธุรกิจรวมถึงแนวทางการทำการตลาดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ค่ะ
วิเคราะห์จุดเด่นของร้านซูชิสายพาน
- ความตื่นเต้นในการเข้าใช้บริการ: จุดเด่นหลัก ๆ คือ การที่ลูกค้าเห็นสายพานที่หมุนพร้อมเมนูต่าง ๆ ทำให้ไปกระตุ้นประสาทให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น และตัดสินใจไม่ถูกในคราวเดียวกัน นอกจากนี้การได้เห็นเมนูที่วนผ่านตามาซ้ำกันแม้เราไม่เคยกินเมนูนั้นมาก่อน หรือไม่ได้ชอบอาหารประเภทนั้นเป็นทุนเดิมก็ไปช่วยสร้างความอยากรู้อยากลองเพราะลูกค้ามีภาพจำเหล่านั้นในหัวแล้ว
- คำเล็กแต่หยิบได้เรื่อย ๆ : ด้วยปริมาณที่มาในขนาดพอดีคำ ทำให้สมองเราคิดว่าด้วยปริมาณขนาดนี้ กินอีกหน่อยดีกว่า เผลอแป๊บเดียวจานกองสูงลิ่วเท่าหัว
- ราคาเริ่มต้นหลักสิบ: ราคาก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อแต่ด้วยความที่ซูชิสายพานเริ่มต้นจานละไม่เกิน 40 บาท แถมบางจานมาสองคำอีกตกคำละไม่ถึง 20 บาท ทำให้คนรู้สึกว่าง่ายต่อการจับจ่ายมากกว่า
- บรรยากาศภายในร้าน: ร้านซูชิสายพานเหมาะกับทั้งการไปเป็นกลุ่ม และไปคนเดียวเพราะมีทั้งแบบโต๊ะและที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ที่มีการกั้นสัดส่วนไว้ชัดเจน ทำให้ลูกค้าที่ไปคนเดียวไม่รู้สึกอึดอัด แถมบรรยากาศในร้านก็ไม่โหวกเหวกโวยวาย เพราะสามารถกดสั่งอาหารผ่านแท็บเล็ต หรือ หยิบจากสายพานได้เลย
- บริการประทับใจ: เนื่องจากร้านซูชิสายพานส่วนใหญ่แล้วเน้นการให้บริการแบบคนญี่ปุ่น ทำให้เรารู้สึกได้ว่าได้รับการให้บริการที่ดีเป็นพิเศษรวมถึงบางร้านยังมีการเลือกใช้บัตรสมาชิกในการสะสมแต้ม เพื่อแลกส่วนลด หรือ ของรางวัลพิเศษก็ยิ่งทำให้ลูกค้ากลับไปใช้บริการซ้ำบ่อย ๆ เพราะว่ารู้สึกถึงการมีส่วนร่วม และรู้สึกอยากเอาชนะในกิจกรรมที่ทางร้านจัด
ส่องแบรนด์ซูชิสายพานในไทย มีร้านไหนบ้าง
- Sushi Express: ซูชิสายพานแบบญี่ปุ่น ที่มีมากกว่า 600 สาขาทั่วโลก ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียงแค่ 30 บาท แถมมีเมนูให้เลือกทานมากมาย ทั้งคาวและหวาน แถมยังมีเมนูตามฤดูกาลอีก ทำให้ร้านซูชิเอ็กเพรสครองใจใครหลายคนได้ไม่ยาก
- Sushiro: ร้านซูชิสายพานที่มียอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ที่คนไทยชอบไปทานของทอด! ร้านนี้โดดเด่นที่เมนูให้เลือกหลาย ราคาเข้าถึงง่ายเพราะเริ่มต้นที่จานละ 40 บาทเท่านั้น ด้วยราคา และคุณภาพแบบนี้ทำให้คนยอมรอคิวยาวหลายชั่วโมง
- (upcoming) Katsu Midori: ซูชิสายพานชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่เตรียมพร้อมในการเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยตัวร้านมีชื่อเสียงมาจากคุณภาพวัตถุดิบที่สูงแต่ราคาย่อมเยา ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ใครสายซูชิต้องตามไปลอง
- Genki Sushi: ซูชิสายพานเจ้าดังที่มีกิมมิกการเสิร์ฟอาหารมาพร้อมกับรถไฟ โดยราคาเริ่มต้นเพียงจานละ 39 บาทเท่านั้น ใครอยากลองเปิดประสบการณ์ทานซูชิบนรถไฟก็ไปลองได้ที่ Central World เลยค่ะ
กลยุทธ์ร้านซูชิสายพาน กับ การปรับใช้กับธุรกิจของเรา
แม้ว่าจุดขายของซูชิสายพานคือ การที่มีสายพานมาเป็นเครื่องมือในการชักจูงลูกค้าเข้าร้านแต่ธุรกิจเราเองก็สามารถนำกลยุทธ์แบบร้านซูชิสายพานมาปรับใช้ได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อสายพาน
- กระตุ้นให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วม: การมีส่วนร่วมของลูกค้าทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร้าน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรให้ความสำคัญเรื่องการสร้าง และพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่นการทำบัตรสมาชิก สะสมแต้มให้ลูกค้าได้ปรับระดับของตัวเองได้เรื่อย ๆ รวมถึงสามารถแลกของรางวัลที่ร้านมีได้ โดยเจ้าของธุรกิจสามารถเลือกใช้เครื่องมือ CRM เช่น Loga มาใช้ในการเก็บข้อมูลนี้ก็ได้
- สร้างแบรนด์ให้มีความสนุกน่าสนใจ: แม้เราอาจไม่ได้มีสายพานให้โชว์อาหาร แต่ทางร้านสามารถหากิจกรรมเกมสนุก ๆ แบบ interactive ให้ลูกค้าได้ร่วมกิจกรรมไปด้วยได้ Loga มีฟีเจอร์ Lucky wheel ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้มาร่วมกิจกรรมกับทางร้านโดยการนำแต้มมาแลกเป็นของรางวัลสุดพิเศษ สร้างประสบการณ์ตื่นเต้น สนุก ให้ลูกค้าอยากมาทานที่ร้าน และสะสมแต้มเพื่อไปหมุน Lucky wheel บ่อย ๆ ได้
- ดูแลเอาใจใส่มอบประสบการณ์ที่ดี: การบริการที่รู้ข้อมูล insights ของลูกค้าของเราจะสามารถยกระดับการบริการของร้านให้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าได้ทุกประเภท ซึ่งในส่วนนี้ร้านต้องทำการเก็บข้อมูลลูกค้าว่าชอบอะไร หรือมีข้อจำกัดใด ๆ บ้างที่ต้องควรระวัง การสังเกตและร่วมรวบข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งร้านสามารถทำได้โดยการรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ มาวิเคราะห์เองแบบครั้งต่อครั้ง หรือจะเลือกใช้งานเครื่องมือทุ่นแรงในการดูข้อมูล insights ลูกค้าอย่าง Loga BI แทนได้เลย เพราะระบบได้รวบรวมข้อมูล insights ที่จำเป็นไว้หมดแล้ว!
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @loga
0 Comments