แอปพลิเคชัน “Shopee” ประกาศปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมขึ้นเป็น 3% (เดิม 2%) เริ่มวันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้ ลงขายได้ฟรีเหมือนเดิม แต่ถ้าขายได้ คิดค่าธรรมเนียมแพงขึ้นอีก 1% (ดูรายละเอียดค่าธรรมเนียมอื่นๆ)

ย้อนวันวานกันซ่ะหน่อย ช่วงที่ Shopee เริ่มบุกตลาดใหม่ๆ ก็ยอมทุ่มเงินเพื่อเอาใจบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ด้วยโปรโมชั่นทั้งส่งฟรี ลงขายฟรี และที่สำคัญไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ และยอมรับผลการดำเนินธุรกิจที่ขาดทุนในช่วงแรก แต่ก็ทำให้มีคนเข้ามาซื้อขายผ่าน Shopee จำนวนมาก

ต่อมาเมื่อปี 2562 เริ่มมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการชำระผ่านบัตรเครดิต และเดบิต ส่งผลให้เหล่าบรรดานักขายบางร้านก็แก้ปัญหาด้วยการไม่รับชำระค่าสินค้าผ่านช่องทางนี้

แต่คราวนี้ ไม่ว่าจะชำระด้วยวิธีใดก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเหมือนกันหมด Shopee ปิดช่องทางการชำระค่าสินค้าที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต การโอนเงิน การใช้ไอแบงกิ้ง ชำระผ่านเอทีเอ็ม หรือไปโอนเงินที่สาขาธนาคาร 

เราก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการขายของผ่าน Marketingplace ข้อดีหลักๆ คือ เค้าช่วยหาลูกค้าใหม่ให้เรา แถมยังช่วยส่งเสริมการขายหลากหลายรูปแบบ แถมยังมีเครื่องมือ e-commerce ที่ครบครันซึ่งสะดวกต่อผู้ขายออนไลน์

แต่พอมาวันนี้ที่ Shopee ประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมการขายนั้นทำให้เราต้องฉุกคิดแล้วว่า ขายของผ่าน Marektingplace ได้คุ้มเสียรึป่าว

ข้อเสียของการขายของผ่าน Marketplace

1. ยืมแพลตฟอร์มเค้ามาใช้ – เหมือนเราไปขายของในที่ทางของคนอื่น วันไหนเค้าอยากจะขึ้นราคาค่าธรรมเนียม หรือ เปลี่ยนแปลงข้อบังคับต่างๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้

2. ข้อจำกัดการเก็บและเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า – อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ ทำได้ยากเพราะเราไม่มีข้อมูลอะไรเลย

3. การแข่งขันด้านราคาสูง – พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องลดราคาแข่งกัน เนื่องจากการขายผ่าน marketplace เป็นตลาดเปิดที่ผู้ซื้อเข้ามา search สินค้าต่างๆ ก็จะเจอสินค้าแบบเดียวกันมากมายเต็มไปหมด สุดท้ายผู้ซื้อก็มีแนวโน้มที่จะเลือกร้านที่ขายราคาถูก แต่ก็อาจจะมีผู้ซื้อบางส่วนที่จะเลือกซื้อกับร้านที่ได้รับการรีวิวดีซึ่งอาจจะมีราคาสูงกว่านิดหน่อย

4. ขายแข่งกับคนจีน – ถ้าลองสังเกตดูสินค้าที่อยู่ใน marketplace ต่างๆ อย่าง Shoppe Lazada จะเห็นร้านค้าจากจีนเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทางของสินค้าที่เรารับมาขายทำให้เราไม่สามารถสู้ในเรื่องของราคาได้เลย

มันจะดีกว่าไหม? ถ้ามีหน้าร้านขายของออนไลน์เป็นของตัวเอง

Loga ระบบสมาชิกที่มาพร้อมกับหน้าร้านออนไลน์ ที่จะมาช่วยเพื่อให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณมีหน้าร้านออนไลน์เป็นของตัวเอง ใช้งานราบรื่นไม่สะดุด 

• ไม่เสียค่าธรรมเนียมการขาย
• เลือกช่องทางการจ่ายเงินได้หลากหลาย
• มีระบบเก็บข้อมูลลูกค้า
• ออเดอร์ไม่ตกหล่น มีระบบแจ้งเตือนเวลาลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแบบ real time 
• ทำโปรโมชั่นง่ายๆ ด้วยโค๊ดส่วนลดหรือการนำแต้มมาแลกเป็นส่วนลดได้ 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://blog.loga.app/shop-mobile-commerce/

นี่อาจเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่จะกระตุ้นให้บรรดานักขายออนไลน์ปรับตัว เมื่อคุณขายสินค้า ในที่ทางของคนอื่นและยังไม่มีที่ทางของตัวเอง…ใครจะไปรู้ว่าวันนึงค่าธรรมเนียมอาจพุ่งไป 10% หรือ 20% ก็ได้ ส่วนนักช็อปก็ต้องตรวจสอบให้ดีเพราะสินค้าที่เราซื้ออาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่เราคิดก็ได้ 🙂

Related posts:

สิ่งที่ควรรู้ก่อนขายสินค้าพรีออเดอร์ LOGA – NEWSLETTER DEC 2020 ครบเครื่องเรื่องสัตว์เลี้ยง กับ Kingkong Petshop กลยุทธ์บัตรสมาชิกของ Starbucks