Schedule a call with us HERE
Logo
11 Jul 2024

เปิดร้านให้ปัง มูอย่างเดียวคงไม่พอ

คนไทยกับการมูเป็นเรื่องคู่กัน ยิ่งเวลาทำอะไรสำคัญ ๆ คนส่วนใหญ่มักเลือกการไปมูเป็นที่พึ่งทางจิตใจ เพื่อเสริมดวงให้ประสบความสำเร็จ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมูมีส่วนช่วยให้ทางจิตใจของเจ้าของร้าน พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพราะมีที่พึ่งทางจิตใจ นอกจากการมูแล้วการหาเครื่องมือช่วยบริหารจัดการระบบสมาชิกดี ๆ ก็มีส่วนเสริมให้ร้านของเราเป็นที่รักของลูกค้าได้

วันนี้ Loga จะแนะนำเทคนิคมูและเมค (make) ยังไงให้ธุรกิจเราปังมาฝากกันค่ะ

สายมูต้องมามุงทำอย่างไรให้ร้านเราขายดี ?

  1. สวดมนต์ และดูแลหิ้งพระให้สะอาดอยู่เสมอ: สำหรับชาวพุทธ สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยการสวดมนต์ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเรา และร้าน
  2. พกไข่และส้ม: มีไข่และส้มติดบ้านหรือร้านไว้ เพราะ ไข่ และส้มมีความหมายถึงความสมบูรณ์พูนสุข อุดมสมบูรณ์ และความโชคดี ทำให้เมื่อมีติดบ้าน หรือร้านไว้จะช่วยดึงลาภเข้ามา
  3. บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ: บูชาพระสีวลี ตามความเชื่อที่ว่าพระสีวลีเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งที่เชื่อว่าหากบูชาแล้วจะบันดาลโชคลาภและเงินทองให้กับผู้บูชาเป็นประจำ บูชาท้าวเวสสุวรรณหรือท้าวกุเวร เป็นเทพที่นอกจากจะคอยคุ้มครองป้องกันจากเหล่าภูตผีและอสูรแล้ว ยังเป็นเทพที่ดูแลในเรื่องการเงินอีกด้วย หากเป็นความเชื่อแบบจีนทางร้านอาจหา เรือสำเภาทอง ปีเซี่ยะ หรือบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เพื่อเสริมความเฮงก็ได้

สายเมคต้องลงมือ เตรียมการอย่างไรให้ร้านเราขายดี ?

  1. ทำคอนเทนต์เรียกลูกค้า: แม้ว่าสินค้าหรือบริการของที่ร้านเราจะดีอยู่แล้ว แต่ลูกค้าอาจไม่รับรู้เพราะร้านเราพึ่งเปิดใหม่การทำคอนเทนต์โปรโมทร้านผ่านช่องทางโซเชียลต่าง ๆ เช่น TikTok, Instagram, หรือ Facebook ก็มีส่วนช่วยให้ร้านเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นและช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา
  2. จัดโปรโมชันเปิดร้านต้อนรับลูกค้าใหม่: การทำโปรโมชันแรง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าถือเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ร้านใช้กันไม่ว่าจะเป็นการแจกคูปองต้อนรับเป็นส่วนลดพิเศษในช่วง Grand opening สำหรับลูกค้าที่มาสมัครสมาชิกในครั้งแรก หรือแจกแต้มให้ลูกค้าสำหรับการสมัครสมาชิกใหม่ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นการจัดโปรโมชันเพื่อเรียกลูกค้าแล้ว ยังได้เก็บข้อมูลลูกค้าไว้ใช้ในการทำการตลาดในอนาคตด้วย
  3. ทำแคมเปญตามเทศกาล: ร้านต้องไม่พลาดจัดกิจกรรมตามเทศกาลไม่ว่าจะเป็นการแจกคูปองโปรโมชันช่วงวันสงกรานต์ วาเลนไทน์ หรือโปรโมชันวัน shopping เช่น 7 เดือน 7 เพื่อเรียกลูกค้า เพราะการแจกเป็นคูปองทำให้ลูกค้าต้องกลับมาใช้งานที่ร้านเราอีกครั้ง ซึ่งการแจกเป็น e-coupon บน Loga ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ทำได้เพียง 2 นาที นอกจากจะรวดเร็วแล้วยังช่วยลดต้นทุนในการปรินต์คูปองแบบเดิม ๆ ด้วย
  4. แบ่งกลุ่มสมาชิก เพื่อมอบสิทธิพิเศษ: การแบ่ง tier ของสมาชิก โดยให้สมาชิกสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลทำให้สมาชิกมีเป้าหมายในการมาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าที่ร้านเราบ่อยขึ้นเพราะรู้สึกว่าได้รับสิทธิประโยชน์ และเกิดการมีส่วนร่วมระหว่างร้านค้ากับลูกค้าจนเกิดเป็นความภักดีต่อแบรนด์เรา (Brand loyalty) ซึ่งการให้แต้มบน Loga ทำได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสแกน QR Code หรือร้านเป็นคนให้แต้มเองก็ทำได้ไม่ยุ่งยาก
  5. รู้จักข้อมูล insights ลูกค้า: การที่มีเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ละเอียด ทำให้ร้านมีชัยไปกว่าครึ่ง Loga ตอบโจทย์ด้วยฟีเจอร์แดชบอร์ดอัจฉริยะ Loga BI analytics ที่จะช่วยให้ร้านเข้าใจว่าลูกค้าของร้านเป็นลูกค้ากลุ่มไหน ชอบบริการใดของร้านเรา หรือแคมเปญไหนเป็นที่นิยมเพื่อให้ร้านสามารถสร้างแคมเปญได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น และช่วยลดงบประมาณทางการตลาดที่ไม่จำเป็นได้
  6. มีระบบ loyalty ที่ครบครัน: การมีเครื่องมือในการสร้างระบบสมาชิกที่ครบครัน ในราคาที่จับต้องได้จะช่วยให้ร้านค้าสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ตั้งแต่เริ่มใช้งาน Loga ตอบโจทย์ทุกประเภทธุรกิจด้วยฟีเจอร์ที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบสะสมแต้มและของรางวัล คูปอง การจอง ร้านค้าออนไลน์ เครดิต และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกเพียบ!

ทั้งการมู และการลงมือทำล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยให้ร้านมียอดขายที่ดีขึ้นได้ ร้านสามารถเริ่มต้นทำตามทริคที่ Loga แนะนำได้เลย

ร้านค้าสามารถเริ่มต้นใช้งาน Loga ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือทดลองใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นเพียง 490 บาท/เดือนเท่านั้น เพียงเท่านี้ร้านก็สามารถมีเครื่องมือ CRM ที่ครบครันไว้ใช้งานเองได้รับรองว่าร้านจะสามารถ make รายได้จากบริการอย่างแน่นอน

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @loga

Tags: , , , , ,
Post by Webmaster

0 Comments